การที่เราโรยปูนข าวลงในดินที่เป็นแปลงปลูกต้นไม้ เพื่อเป็นการปรับสภาพดินที่มีค่าความเป็นก s ดสูงครับ ดังนั้นก่อนที่จะโรยปูนข าว ควรที่จะตรวจสอบค่าความเป็นก s ดด่างในดินก่อน จึงจะทำให้ได้ดินที่มีค่าความเป็นกลางครับถ้าจะปลูกแปลงผักนั้น แปลงปลูกควรขุดดินยกร่อง เพื่อไม่ให้น้ำขั ง
(ผักส่วนใหญ่ชอบน้ำ (ความชื้นสูง) แต่ไม่ชอบน้ำขัง)การขุดต ากดินหลายๆแดด เป็นการเตรียมแปลงปลูกผักที่ดี ช่วยกำจัดเ ชื้ อโ ร คด้วยครับปรับความเป็นก s ดของดิน ใช้ในกรณีดินเปรี้ยว เพราะปูนข าวมีฤ ท ธิ์เป็นด่างอ่อนๆในทุ่งนา ดินที่มีน้ำท่วมขัง การย่อยสลายของซากพืชซากสั n ว์ จะทำให้ดินมีฤ ท ธิ์เป็นก s ดเพิ่มขึ้น จึงควรใส่ปูนข าวก่อนปลูกพืชนอกจ า กนั้นยังช่วยกำจัดเ ชื้ อโ s คได้บ างชนิดด้วย
เรื่องปูนข าวก็บอกว่าเอาไว้ปรับสภาพดินแก้ปัญหาดินเป็นก s ด แต่ไม่เคยบอกเลยว่าดินเป็นก s ดเป็นยังไง พื้นที่ไหนบ้างที่มีความเสี่ยงทำให้ดินเป็นก s ดความจริงก็คือพืชส่วนใหญ่ชอบดินที่เป็นก s ดอ่อนๆ pH ประมาณ 6-7 ถ้าปีที่ผ่านมาเราปลูกพืชได้ผลผลิตดีแล้วจะเอาปูนข าวมาใส่ทำไม มีนักการเมืองปูพรมโฆษณาเรื่องนี้แล้วก็ตั้งงบประมาณ
ซื้อปูนข าวแจกชาวบ้าน นั่นแหละคือเหตุผลบ างทีก็บอกว่าปุ๋ยวิทย าศาสตร์ทำให้ดินเป็นก s ด ถามว่าเคยรู้กันจริงๆ ไหมว่าปุ๋ยวิทย าศาสตร์นี่ปกติมีค่า pH ประมาณเท่าไหร่ อยู่ระหว่าง 7.2-7.8 ครับ ปุ๋ยอินทรีย์ก็ประมาณนี้เหมือนกัน คิดดูแล้วกันว่าควรใช้ปูนข าวหรือไม่ควรถ้าจะใช้ปูนข าว อย ากให้ใช้เพราะเหตุผลอย ากจะได้ธาตุอาหารรองมากกว่า
คือพวกแคลเซียม แมกนีเซียม ซึ่งหากใช้ด้วยเหตุผลนี้ก็ใช้ในอัตรา 2 กก./ไร่ก็พอแล้ว เลือกใช้ปุ๋ยที่ข้างกระสอบบอกว่ามีแคลเซียมกับแมกนีเซียม ไม่ต้องสนใจว่ามีเท่าไหร่ แค่นี้ก็พอแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องใช้ปูนข าวจะใช้ปูนข าวกันจริงๆ จังๆ ก็ต่อเมื่อเราปลูกพืชไม่ได้ผลผลิตเลย ให้หมอดินมาวิเคราหะ์แล้วพบว่าดินเป็นก s ดมาก นั่นแหละต้องใช้แต่ต้องคำนวณปริมาณให้เหมาะสมด้วย
ปูนมาร์ล เหมาะสำหรับใช้ในแปลงนาและแปลงผัก ในพื้นที่ลุ่มภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศ ส่วนไม้ผลในภาคใต้ ควรใช้หินปูนบดและปาล์ม ควรใส่ปูนโดโลไมต์เพื่อเพิ่มแมกนีเซียมแก่ต้นปาล์ม แต่หากต้องการให้เห็นผลไวเร่งด่วยสุด ก็คงต้องแนะนำให้ใช้ปูนข าวกันล่ะครับ
เรียบเรียงโดย : เพจเกษตรบ้านทุ่ง