พลังที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้เราเป็นสุขใจและทำให้เราเอาชนะตนเองได้พลังนั้นคือ “พลังแห่งการให้อภัย”
พ่อแม่ของคุณ ไม่ว่าท่านยังมีชี วิ ตอยู่หรือไม่ก็ตาม คุณต้องให้อภัยท่านอย่างหมดสิ้นสำหรับความผิดพลาดในอดีตในการเลี้ยงดูคุณ อย่างน้อยที่สุดคุณควรขอบคุณท่านที่ให้ชี วิ ตแก่คุณ ท่านทำให้คุณมีวันนี้ ถ้าคุณยังมีความสุขที่จะมีชี วิ ตอยู่ คุณก็ควรให้อภัยท่านได้ทุกเรื่อง และจงอย่าตำหนิท่านอีก
ถ้าคุณไม่ให้อภัยพ่อแม่ของคุณ คุณจะยังคงเป็นเด็กตลอดไป และจะปิดโอกาสในการเติบโตและเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ คุณยังคงมองตนเองเป็นเหยื่อผู้โชคร้าย และที่แย่ไปกว่านั้นคือคุณจะเก็บความรู้สึกเชิงลบความเป็นปมด้อย และความโกรธไว้ตลอดไป ยิ่งไปกว่านั้นถ้าพ่อแม่ของคุณเสียชี วิ ตลงโดยที่คุณยังไม่ได้ให้อภัยท่าน สิ่งนี้จะรบกวนคุณไปตลอดชั่วชี วิ ต
การเป็นลูกกตัญญูคือ “จงยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของพ่อแม่” เพราะนี่คือการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคน
หากวันหนึ่ง คุณพบว่าพ่อแม่เริ่มทำอาหารที่นิ่มและเละ
หากวันหนึ่ง คุณพบว่าพ่อแม่เริ่มชอบกินโจ๊ก ข้าวต้ม
หากวันหนึ่ง คุณพบว่าพ่อแม่เริ่มเดินข้ามถนนข้างลง
หากวันหนึ่ง คุณพบว่าพ่อแม่เริ่มไม่ชินกับความเคยชินเดิม ๆ เช่น ไม่ชินกับการอาบน้ำทุกวัน
หากวันหนึ่ง คุณพบว่าพ่อแม่เริ่มไอเวลากินข้าวตลอดเวลา โปรดอย่าคิดว่าพวกเขาป่วย (เป็นเพราะเส้นประสาทการกลืนเริ่มถดถอย)
หากวันหนึ่ง คุณพบว่าพ่อแม่ไม่ชอบออกนอกบ้าน
การพบกันของพ่อแม่ลูกบนโลกนี้ ก็เพื่อให้รักใคร่ซึ่งกันและกัน ไม่ใช่มาจงเกลียดจงชังกัน การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์คือ “การให้อภัยความไม่สมบูรณ์ของพ่อแม่”
แม้ว่าเขาจะอ่อนแอ ดูไม่ดี ไม่เข้าตาแค่ไหนก็ตาม เพื่อประโยชน์ของลูก ๆ ในฐานะของคนเป็นพ่อแม่ก็จะพยายามต่อสู้ชี วิ ต แม้ต้องเผชิญอุปสรรค์มากมายก็ตาม
เพราะลูกก็คือแก้วตาดวงใจ เป็นทั้งชี วิ ต เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นสมบัติที่ล้ำค่า เป็นจิตวิญญาณที่สองของพ่อแม่ นี่คือการเผชิญหน้าที่ยิ่งใหญ่และลึกซึ้งของพวกเขา
การให้กำเนิดและเลี้ยงดูเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ เกินกว่าความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพ่อแม่ จงมีความอดทนและให้อภัยพวกเขา สำหรับความผิดพลาดหรือความไม่สมบูรณ์นั้น นี่คือคุณธรรมพื้นฐานของมนุษย์
พ่อแม่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเพื่อเลี้ยงดูเราทุกวัน ขอถามหน่อยว่ามีใครสมบูรณ์แบบ โดยไร้ข้อบกพร่องบ้าง แน่นอนว่าพ่อแม่ถูกคนล้วนเคยทำผิดพลาด แม้บางครั้งอาจจะหนักหนาไปหน่อย
บางครั้งอาจควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ และคุณอาจจะโทษพวกเขาที่ขาดการดูแลเอาใจใส่ การอ่านการเรียนที่น้อยเกินไปไม่สามารถช่วยการเรียนรู้ของคุณได้ และแนวคิดเก่าแก่ทำให้เกิดข้อขัดแย้ง
แต่ว่าบุญคุณการเลี้ยงดูนั้น ยิ่งใหญ่เหนือทุกสิ่ง นักเขียนชาวจีน “หวังซั่ว” เคยเขียนจดหมายให้ลูกสาวว่า พ่อจำไม่ได้แล้วว่าเคยรักพ่อแม่ของตนเองตั้งแต่เมื่อไร แต่ตอนเล็กก็รู้สึกกลัวพวกเขามาก พอเริ่มโตขึ้นก็รำคาญพวกเขา ต่อมาเมื่อพบเจ้าก็ต้องทะเลาะกัน และหลังจากนั้นก็ดูถูกพวกเขา หลบหน้าพวกเขา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่นึกถึงพวกเขาก็รู้สึกไม่สบายใจ
การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ การให้อภัยพ่อแม่ที่ไม่สมบรูณ์แบบ
บางครั้งเราควรคิดพิจารณาดูให้ดี
ทำไม.. พ่อแม่สมัยนี้ไม่กล้าพูดเสียงดังต่อหน้าลูก กลับพูดน้อยลง
ทำไม.. พ่อแม่มักไม่เอาเรื่องในอดีตของเรามาพูดซ้ำ ๆ กรอกหู
ทำไม.. พ่อแม่ถึงต้องระมัดระวังเมื่ออยู่ต่อหน้าเราเสมอ
เพราะเราโตแล้วหรือ
ไม่.. เพราะเราเปลี่ยนไปต่างหาก
ท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปของเราทำให้พ่อแม่ประหลาดใจ
เรื่องมักง่ายที่คิดว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้นได้ทำร้ายฝังลึกลงไปในจิตใจของพวกเขา
สิ่งที่น่าเศร้าใจที่สุดในโลกคือ เมื่อคุณเริ่มผมขๅวแล้ว
ยังต้องมาดูแลอารมณ์ ความรู้สึกของลูก และต้องระมัดระวังทุกครั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าลูก ๆ ด้วย
เมื่อพ่อแม่ยังมีชี วิ ต ผู้คนมากมายวนเวียน
เมื่อพ่อแม่จากไป ชี วิ ตก็เหลือเพียงหนทางแห่งการลาจาก
การให้เกียรติแก่พ่อแม่ ไม่เพียงเป็นพื้นฐานของมนุษย์
นอกจากนี้ยังเป็นความพยายามเล็กน้อยซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพของบุคคลอีกด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดคือ หัวใจแห่งการรู้สึกขอบพระคุณ นึกถึงพ่อแม่ให้มาก
พ่อแม่ที่ทุ่มเททั้งกายและใจ ทั้งชี วิ ตเพื่ออบรบสั่งสอนเรา
ความปรองดองในการดูแลเอาใจใส่ที่เป็นหลักประกันสำคัญ เพื่อความสงบของทุกคน
ในโลกใบนี้ หนึ่งในสิ่งที่น่าเสียใจที่สุดในโลกนี้ก็คือ การที่คุณตบหน้าพ่อแม่ด้วยการแสดงใบหน้าที่บูดบึ้ง จากนั้นก็ทำหน้าเย็นชาใส่พ่อแม่
การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ “การให้อภัยความไม่สมบูรณ์แบบของพ่อแม่” ให้อภัยความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพ่อแม่ ให้อภัยความไม่สมบรูณ์แบบของพวกเขา เพราะนี่คือเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คุณมักจะโทษความผิดพลาดมากมายที่ผ่านมาของพวกเขา มักคิดว่าพวกเขาเป็นหนี้ชี วิ ตที่ดีแก่คุณ
แต่ที่จริงพวกเขาได้ทุ่มเททุกอย่าง ทั้งชี วิ ตแล้ว หรือว่าคุณไม่ได้เป็นหนี้เ งิ นทองที่พวกเขาสูญเสียไปเพื่อเลี้ยงดูคุณหรือ ไม่เพียงแค่เ งิ นทอง แต่ยังสูญเสียแรงกาย แรงใจจำนวนมากเท่าไหร่บนตัวคุณ สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ถ้าคุณจำได้เพียงแค่ความผิดพลาดของพ่อแม่เท่านั้u การลงโทษขั้นสุดท้ายก็คือ “ตัวคุณเอง”
นักเขียนชาวไต้หวัน ซานเหมา เคยกล่าวไว้ว่า พ่อแม่นับวันอายุยิ่งมากขึ้น หากต้องการเปลี่ยนแนวคิดของผู้ใหญ่คนหนึ่ง มันยากเสมอ ดังนั้นในหลาย ๆ แง่ หนุ่มสาวต้องเข้าใจพ่อแม่ของพวกเขาให้มากขึ้น ทำดีกับพ่อแม่หน่อย เพราะพ่อแม่คือ เพราะพ่อแม่เป็นรากฐานของเรา ถ้าหากรากฐานของชี วิ ตไม่ดี ใบไม้ก็จะงอกงามเติบโตได้อย่างไร
การทำดีกับพ่อแม่ก็คือการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยให้กับตนเอง เมื่อเวลาเริ่มผ่านไป พวกเขาก็แก่ตัวลง ก็ควรระมัดระวังให้มากขึ้น อดทนให้มากขึ้น ใจกว้างให้มากขึ้น
อย่าปล่อยให้พวกเขาต้องระมัดระวังเมื่ออยู่ต่อหน้าเรา การที่พวกเขามีชี วิ ตถึงปานนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าใช้ความเย็นชา ไม่แยแส ไม่กระตือรือร้นไปแก้ไข หากคุณแก้ปัญหาไม่ได้ คุณก็ต้องเรียนรู้ที่จะ “ให้อภัยตัวเอง”
เพราะการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนคือ “การให้อภัยความไม่สมบูรณ์ของพ่อแม่”
แหล่งที่มา : eathealth
เรียบเรียงข้อมูลโดย : เพจเกษตรบ้านทุ่ง