“ปลูกสะตอ แซมในสวนไม้ผล” ให้เป็นพืชเศรษฐกิจเสริมรายได้เ งิ นแสน..

สะตอ…เป็นพืชเศรษฐกิจที่เกษตรกรในพื้นถิ่นจังหวัดศรีสะเกษปลูกมานานกว่าสิบปี ฝักสะตอมีลักษณะแบนยาว ในฝักมี 10-20 เมล็ด นิยมนำเมล็ดสะตอสดไปจิ้มน้ำพริก สะตอผัดเปรี้ยวหวาน หรือผัดกะปิสะตอกุ้ง สรรพคุณช่วยขับลมในลำไส้ ขับปัสสาวะ มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเ ลื อ ด ลดความดันโลหิต หรือช่วยไม่ให้เกิดหลอด เ ลื อ ด อุดตัน เกษตรกรที่อำเภอขุนหาญได้ปลูกสะตอเป็นพืชแซมในสวนไม้ผล เป็นพืชเศรษฐกิจเสริมรา ย ไ ด้ เ งิ นแสนให้ก้าวสู่วิถีการยังชีพที่มั่นคง

คุณรัตดา คงสีไพร เกษตรอำเภอขุนหาญ เล่าให้ฟังว่า การทำการเกษตรหรือปลูกพืชเชิงเดี่ยวมักจะมีความเ สี่ ยงสูงได้ทั้งจากสาเหตุของสภาพดินฟ้าอากาศที่แปรปรวน ฝนแล้ง น้ำท่วม หรือศัตรูพืชเข้าทำลาย ใช้ต้นทุนการผลิตที่สูง หรือไม่สามารถกำหนดราคาซื้อขายได้ จึงมักส่งผลให้ไม่มั่นคงในการยังชีพ

แนวทางส่งเสริมการปลูกและพัฒนาคุณภาพผลไม้ สำนักงา นเกษตรอำเภอขุนหาญ ร่วมกับ กรมพัฒนาที่ดิน ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ และอีกหลายหน่วยงา น ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกทุเรียน เงาะ มังคุด หรือลองกอง ผสมผสานและส่งเสริมการปลูกและผลิตในระบบเกษตรดีที่เหมาะสม หรือ GAP (Good Agricultural Practice) เพื่อให้ได้ผลไม้คุณภาพ

ส่งเสริมปลูกสะตอ… ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกสะตอเป็นพืชแซมในสวนไม้ผล หรือปลูกแบบหัวไร่ปลายนาเพื่อเพิ่มผลผลิตสะตอและผลไม้มากขึ้น สะตอปลูกเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือดินเหนียวปนทราย เป็นไม้ยืนต้น สูง 15-30 เมตร ฝักมีลักษณะแบนยาว การปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาดีด้วยการใช้ปัจจัยการผลิต ทั้งการใส่ปุ๋ย การให้น้ำแบบผสมผสานที่เกื้อกูลกัน ทำให้ลดต้นทุนการผลิต ป้องกันการแ พ ร่ ร ะ บ า ด ของโsคแมลงศัตรรูพืช ลดความเ สี่ ย ง ด้านการผลิต การตลาด และทำให้ได้ผลผลิตดก มีตลาดรองรับ นิยมนำเมล็ดสะตอมาปรุงอาหารได้หลากหลายรสชาติอร่อย

คุณลุงเสริม หาญชนะ เกษตรกรชาวอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ปลูกสะตอแซมในสวนไม้ผล เล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2545 ได้ปลูกไม้ผล พื้นที่ 20 ไร่ แบ่งปลูกทุเรียนหมอนทอง 15 ไร่ และปลูกเงาะพันธุ์โรงเรียน 5 ไร่ ได้ปลูกระยะห่างระหว่างต้นและแถว 8×8 เมตร ขุดหลุมปลูกนำกิ่งพันธุ์ลงปลูก เกลี่ยดินกลบคลุมด้วยฟางข้าวแห้ง ช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้น ให้น้ำแต่พอชุ่ม เทคนิคการปลูกและผลิต ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง พร้อมกับรับคำแนะนำจากนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรและจากแหล่งวิชาการต่างๆ

การปลูกสะตอ… หลังจากปลูกทุเรียนและเงาะแล้ว ได้ปลูกสะตอเป็นพืชแซมในสวนไม้ผลกว่า 10 ต้น พร้อมกับปลูกพืชอายุสั้นได้แก่ มะละกอ กล้วย หรือข้าวโพดหวาน เพื่อให้เป็นร่มเงาและได้ผลผลิตไว ซึ่งภายใน 1 ปี ก็มีผลผลิตให้เก็บไปขๅย ทำให้มีรๅ ยไ ด้นำมาเป็นทุนหมุนเวียนในการปลูกไม้ผล

การเตรียมพันธุ์… เมื่อครั้งไปซื้อกิ่งพันธุ์ไม้ผลมาจากจังหวัดจันทบุรี ก็ได้ไปซื้อกิ่งพันธุ์สะตอข้าวหรือพันธุ์ข้าวมาด้วย และได้นำมาปลูกเป็นพืชแซมหลังจากปลูกไม้ผล

การปลูก… ได้คัดเลือกพื้นที่ปลูกสะตอ ขุดหลุมปลูกกว้าง ยาว และลึก ด้านละ 50 เซนติเมตร รองก้นหลุมปลูกด้วยปุ๋ยคอกแห้งและปูนขาว เพื่อกำจัดเ ชื้ อ ร า นำกิ่งพันธุ์ลงปลูกผูกยึดติดกับไม้หลัก ป้องกันการโค่น เกลี่ยดินกลบ ให้น้ำพอชุ่ม

การปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาสะตอและไม้ผล… ใส่ปุ๋ย สูตรเสมอ 15-15-15 แล้วให้น้ำแต่พอชุ่ม ก็จะเอื้อให้ไม้ผลและต้นสะตอนำไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาการเจริญเติบโตไปด้วยกัน สำหรับต้นสะตอ ได้เพิ่มการใส่ปุ๋ยคอกแห้ง โดยในช่วงต้นสะตอขนาดเล็กได้ใส่ปุ๋ยคอกแห้งครึ่งกระสอบ หรือ 15 กิโลกรัม ต่อต้น เมื่อต้นสะตอมีขนาดใหญ่ได้ใส่ปุ๋ยคอกแห้ง 1 กระสอบ หรือ 30 กิโลกรัม ต่อต้น เพื่อช่วยเสริมให้ต้นสะตอเจริญเติบโตสมบูรณ์ ติดดอกออกฝักโตได้คุณภาพ

การให้น้ำ… ต้นสะตอและไม้ผลต้องให้ได้รับน้ำเพียงพอ ในฤดูฝนก็ให้ได้รับน้ำจากน้ำฝน ส่วนในฤดูแล้งได้จัดระบบการให้น้ำแบบสปริงเกลอร์ ได้ให้น้ำวันเว้นวัน หรือเว้นสองวัน หรือดูความชุ่มชื้นในดินก่อนการให้น้ำ

การเก็บเกี่ยว หลังจากปลูกสะตอ 5-6 ปี ก็จะมีฝักสะตอแก่ให้เก็บเกี่ยว ต้นสะตอจะเริ่มทยอยออกดอกในช่วงเดือนเมษายนและจะเปลี่ยนไปเป็นฝักแก่ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมหรือนานกว่านั้น ต้นสะตอที่เจริญเติบโตแตกต่างกันจะให้ผลผลิตแตกต่างกัน การเก็บได้ใช้ไม้ด้ามยาวสอยเก็บ จะได้ฝักสะตอ 80-100 กิโลกรัม ต่อต้น จัดฝักสะตอมัดเป็นกำ น้ำหนัก 1 กิโลกรัมขๅย 80-100 บา ท ทำให้มีรๅยได้ 6,400-10,000 บา ท ต่อต้น ใน 10 ต้น ที่ปลูกจะมีรๅยไ ด้ 64,000-100,000 บา ท ผลผลิตฝักสะตอส่วนหนึ่งขายที่หน้าสวน อีกส่วนหนึ่งมีพ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อไปขายในเมือง นอกจากการขายผลไม้แล้ว การขายฝักสะตอได้ทำให้มีรายไ ด้เสริมเพิ่มมากขึ้น ทำให้วิถีการยังชีพได้แบบพอเพียงและมั่นคง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.technologychaoban.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย : เพจเกษตรบ้านทุ่ง

Facebook Comments Box