Friday, 1 December 2023

บูชาหลวงพ่อโสธร ค้าข ายร่ำร วยทันต าเห็น

ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ข้อมูลจากการตรวจสอบภายในหลวงพ่อโสธรโดยกรมศิลปากร พบว่า หลวงพ่อโสธรประกอบขึ้นจากหินทรายแปดชิ้น แล้วพอกปูนทับเป็นองค์ จากวัสดุที่ใช้ และพุทธศิลป์ พบว่าเป็นศิลปะอยุธย าตอนต้น (ต่างจากตำนานที่เป็นพระเหนือ)(วิกิพีเดีย)

หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือมีพระอิริย าบถนั่งขัดสมาธิราบ พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้ าย

พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพล า มีส่วนสูง 6 ฟุต 7 นิ้ว พระเพลากว้าง 5 ฟุต 6 นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงวัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา

บทสวดมนต์ ต่อไปนี้เป็นบทสวดอภิมหามงคล สวดแล้วชี วิ ตจะดีขึ้น ทำมาหากินคล่อง ค้าข ายดี ไ ม่มีใครมาคิดไ ม่ดีเรียกได้ว่าเป็น ค า ถ า ครอบคลุมทั้งบริวาร วันนี้เป็นวันดีอย า กจะให้ทุกคนได้สร้างบุญสร้างกุศลให้กับตัวเอง และอย า กจะให้ แ ช ร์แบ่งปันคุณงามความดีเหล่านี้ให้กับผู้อื่นได้สวดมนต์ ได้ท่อง ค า ถ า เพื่อที่จะได้สร้างบ ารมีร่วมกัน

เริ่มต้นให้นั่งสมาธิ 1 นาที จากนั้นตั้ง นะโม 3 จบ แล้วสวดตาม

ค า ถ า บูชาหลวงพ่อโสธร (องค์กลาง)

อิติ อิติ อิติ โสธโร นโม พุทธา ยะ ยะธา พุธโมนะ

ค า ถ า บูชาพระพุทธโสธร

กายะนะ วาจายะวะ วาโสธะรัง นามะ อิติปาริหะ ริยะการัง พุทธธะ รูปัง อะหังปิ วัณทามิ สัพพะโส

ค า ถ า บูชาพระ 5 องค์ ของหลวงพ่อโสธร

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)

นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา

ทรงสมุทรยะ ทรงอากาศ พุทธังแคล้วคล าด ธัมมัง แคล้วคล าด

สังฆัง แคล้วคล าด ศั ตรูภั ยพ าล

วิน าศสันตินะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ

โมกาโร โกนาคะมะโน นานาจิตเต

พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ

ทะเวเนเต ธากาโร ศรีศากะยะมุนี

โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ

“เ รื่ อ งเล่าประวัติเกี่ยวกับหลวงพ่อโสธร”

ประวัติเกี่ยวกับหลวงพ่อโสธร มีเ รื่ อ งราวที่เล่าขานกันมานาน เริ่มตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธย าตอนปลาย มีพระพุทธรูปลอยน้ำมา 3 องค์ที่แม่น้ำบางปะกง

พอมาถึงบริเวณสถ านที่แห่งหนึ่ง มีชาวบ้านเห็นพระพุทธรูปลอยน้ำมา จึงช่วยกัน อัญเชิญขึ้นมาบนฝั่ง ด้วยการเอาเรือออกไปอัญเชิญช่วยกันยกขึ้นเรือ แต่ก็ไม่สำเร็จเนื่องจากยกเอาขึ้นมาไ ม่ไหว จึงเปลี่ยนวิธีการเป็นเอาเชือกเส้นใหญ่ไปคล้ององค์พระทั้ง 3 องค์อย่ างแน่นหนา แล้วช่วยกันชักล ากขึ้นมาบนฝั่ง ซึ่งเป็นที่น่ าแปลกใจของชาวบ้ านในสมัยนั้นเป็นอย่ างมาก เนื่องจากทำอย่ างไรก็ไ ม่สำเร็จ ชาวบ้านพย าย ามลองอยู่หลายครั้งหลายวิธีก็ไ ม่สำเร็จ จนกระทั่งเชื อกข า ดรั้งเอาไว้ไ ม่อยู่ ประกอบกับ กระแสน้ำเกิดปาฏิห าริย์ปั่นป่วนขึ้นมาเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ทำให้พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์จมห ายไป ท่ามกลางความเสี ยด ายของผู้คนซึ่งเห็นเห ตุการณ์อย่ างชัดเจน ต่างพากันยกมือไหว้ท่วมศีรษะบางคนก็พูดว่าไ ม่มีบุญเพียงพอ ที่จะอัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ขึ้นมาได้ ทำให้ผู้คนในสมัยนั้นโจษขานกันต่ าง นานา บ้างก็ว่า เทวดาฟ้าดินไ ม่โปรด

หลวงพ่อก็ไ ม่ยอมประดิษฐานอยู่บนฝั่ง เ รื่ อ งราวโจษขานกันไปมากมายนี้ ทำให้ชาวบ้ านพากันเรียกสถานที่ ที่พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ มาสำแดงปาฏิหาริย์ลอยวนทวนน้ำไปมาว่า “สามพระทวน” เรียกกันเรื่อยไปนานเข้าก็เพี้ยนกลายเป็น “สัมปทวน” กันไปในที่สุด

หากข้อมูลผิ ดพล าดประการใด ต้องการบขออภัยไว้ ณ ที่นี้

เรียบเรียงโดยเพจ : เกษตรบ้านทุ่ง

Facebook Comments Box