สาววัย 23 ปีกลับบ้านนอก ปลูกดอกขจรขาย โกยเ งิ นแสนบา ท/เดือน

มหาสารคาม – สาวบรบือวัย 23 ปีหันหลังให้แสงสีในป่าปูน กลับบ้านนอก จ.มหาสารคาม นำเ งิ นเก็บที่ได้จากการทำงา นลงทุนปลูกดอกขจรขาย ลอง ผิ ด ล องถูกอยู่พักใหญ่จนประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้เก็บดอกขจรและกิ่งพันธุ์ขายมีรายได้นับแสนบา ท/เดือน

อีกตัวอย่างหนึ่งของความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชี วิ ตตัวเอง จากสาวภูธรที่เรียนจบแล้วเข้าทำงา นหารายได้เลี้ยงชีพในเมืองหลวง แต่เธอมีความฝันที่จะต้องกลับบ้านเกิด อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายสังคมเมืองกรุงที่ค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้นไม่หยุด หลังเก็บออมได้เ งิ นก้อนหนึ่ง เธอจึง ตั ด สินใจครั้งใหญ่ลาออกจากงา นกลับไปเริ่มต้นชี วิ ตใหม่ที่บ้านเกิดภาคอีสาน

นางสาวขวัญกมล บุติมนตรี อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 47 บ้านดงเค็ง ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เล่าว่า เดิมตนเคยทำงา นที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ขณะทำงา นอยู่นั้นมีค่าครองชีพสูง ค่าแ ร งไม่พอกับค่าใช้จ่าย และห่างไกลครอบครัว ในระหว่างทำงา นอยู่นั้นตนคิดว่าทำอย่างไรถึงจะมีเ งิ นเหลือเก็บ อีกอย่างตนก็คิดถึงครอบครัวที่อยู่ต่างจังหวัด คิดถึงความสุขในวัยเด็กที่ได้อยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว

จึงตั้งใจทำงา นพร้อมกับประหยัดเ งิ น จนเก็บเ งิ นได้ก้อนหนึ่งจึง ตั ด สินใจลาออกจากงา น กลับบ้านเกิด อ.บรบือ ประกอบกับที่บ้านมีพื้นที่ทำนาปลูกข้าว 17 ไร่ นาข้าวไม่ค่อยได้ผลผลิตเท่าที่ควร จึงปรึกษาแม่เพื่อนำที่นามาทำการเกษตรแบบผสมผสาน โดยดูรายการเกษตรจากสื่อโทรทัศน์ จนพบว่าดอกขจร หรือดอกสลิด เป็นพืชที่คุ้นเคยเกิดขึ้นตามป่า และเป็นพืชทางเลือกใหม่ของเกษตรกร จึงได้แบ่งพื้นที่ราว 1 ไร่ทดลองเพาะพันธุ์ต้นขจร

โดยลองผิดลองถูกอยู่นานพอสมควร ในที่สุดก็ค้นพบวิธีที่จะปลูกอย่างไรถึงได้ผลผลิตดี หลังจากนั้นได้ขยายพื้นที่ปลูกต้นดอกขจรออกไปอีก 2 ไร่ นอกจากนี้ยังปลูกพืชผสมผสานชนิดอื่นๆ ภายในที่นา เช่น กล้วย ถั่วฝักยาว มันสำปะหลัง 5 ไร่ และปลูกข้าวไว้กิน 8 ไร่ พร้อมกับขุดสระเพื่อนำน้ำมาใช้รดต้นไม้ โดยมีแม่ และแฟน รวมถึงคนในครอบครัวเป็นแรงงา นช่วยเหลือกัน นางสาวขวัญกมลเล่าว่า การปลูกดอกขจรนั้นมีขั้นตอนไม่มาก

เริ่มแรกพรวนดินขุดหลุมยกแปลงสูงขึ้นประมาณ 5 ซม. จากนั้นขุดหลุมขนาด 2 คูณ 7 เซนติเมตร ปลูกกิ่งพันธุ์ดอกขจรหลุมละ 3 ต้น วางหลักสูง 1.50 เมตร ระยะห่าง 1 เมตร คูณ 1 เมตร ระยะห่างแต่ละแถวหรือแต่ละแปลงห่างกัน 1 เมตร พร้อมกับวางตาข่ๅยให้สูงเท่ากับหลักไปจนสุดแปลงเพื่อไม่ให้ต้นขจรเ ลื้ อ ยไปที่อื่น ใส่ปุ๋ยคอกบำรุงดิน “ใช้เวลา 3 เดือนก็จะออกดอก เมื่อดอกโตได้ที่ก็เก็บขาย จะเก็บในช่วงเวลา 05.00 น.ไม่เกิน 10 โมงเช้า ดอกขจรจะไม่ชอบฤดูหนาว ฤดูฝนจะได้ผลผลิตดี นอกจากนี้ที่บ้านมีโรงเพาะชำขยกิ่งพันธุ์ดอกขจรด้วย”

นางสาวขวัญกมลกล่าว และว่าสำหรับวิธีการเพาะกิ่งพันธุ์นั้นจะนำแกลบลงในถุงดำเล็ก แล้วนำกิ่งดอกขจรผสมน้ำยาเร่งรากเ สี ย บลงไปในถุงดำ ทิ้ งไว้ 1 เดือนรากจะงอก สามารถนำไปปลูกที่แปลงได้เลยส่วนการขายนั้นจะมีขายทั้ งกิ่งพันธุ์ และดอกขจร ดอกขจรจะเก็บได้ครั้งละ 20-30 กิโลกรัม/1 ไร่ ขายกิโลกรัมละ70 บา ท ส่วนกิ่งพันธุ์นั้น แบ่งเป็นกิ่งพันธุ์สำเร็จมีใบและรากพร้อมปลูกในราคา 10 บา ท และกิ่งพันธุ์สดกิ่งละ 4 บา ท โดยแพกกล่องไปรษณีย์ส่งถึงมือลูกค้า

ส่วนมากจะเป็นลูกค้าในตัวเมืองจังหวัดมหาสารคาม ที่เหลือเป็นลูกค้าจากต่างจังหวัดทั่วประเทศทั้งโทร.สั่งซื้อ และสั่งจองแบบออนไลน์ หรือบนเฟซบุ๊กนางสาวขวัญชนกบอกอีกว่า แต่ละเดือนสามารถขายดอกและกิ่งพันธุ์ สร้างรา ยได้เลี้ยงครอบครัวไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1 แสนบา ท ที่สำคัญได้อยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน ทำให้ครอบครัวอบอุ่น ชี วิ ตกลับมามีความสุขเหมือนวัยเด็กอีกครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://mgronline.com/local/photo-gallery/9610000082279

เรียบเรียงข้อมูลโดย : เพจเกษตรบ้านทุ่ง

Facebook Comments Box