ที่เพจสำนักประชาสัมพันธ์เขต ๑ ที่ได้มีการเผยเรื่องราวการค้นพบรอยพระพุทธบา ทแห่งใหม่ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ อุดรธานีโดยโรงเรียนภูพระบา ทวิทยาได้ดั้นด้นปีนขึ้นสู่ภูเขือน้ำ เทือกภูพานตะวันตก
ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านใหม่ ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ไปทางทิศเหนือประมาณ ๖ กิโลเมตร ออกตามหารอยพระพุทธบา ทแห่งใหม่ ที่พึ่งถูกค้นพบเมื่อปีก่อนโดยชาวบ้านในท้องถิ่น ที่ยังไม่ถูกบันทึกไว้ในระบบข้อมูลโบราณวัตถุของหน่วยงา นแต่อย่างใด ลักษณะรอยพระพุทธบา ทที่ค้นพบนี้ ตรงกึ่งกลางฝ่าเท้าเป็นรูปธรรมจักร โดยแกะสลักรอยหิน เป็นรูปแกนล้อมด้วยกลีบบัวประมาณ ๑๗ ถึง ๑๘ กลีบ
แล้วมีวงกลมล้อมอีกรอบ และถัดออกมาอีกจะแกะเป็นขาธรรมจักร ๘ ขา ล้อมรอบด้วยวงกลมด้านนอกสุด และสลักรูปธรรมจักรบนหัวนิ้วเท้าทั้งห้า และตรงข้อนิ้วเป็นรูปลายข้าวหลามตัดเว้นระยะไว้เป็น ด้านข้างรอยพะพุทธบา ท จะมีร่องรอยการเจาะเป๋นร่องรูหินกะจายเป็นจุด สันนิษฐานว่า เป็นที่ตั้งของเสาไม้มุงหลังคา ที่ผุพังไปตากาลเวลา รอยนี้จะแตกต่างกับรอยพระพุทธบา ทบัวบกที่ตรงกลางพระพุทธบา ทจะเป็นลักษณะกลีบบัวบานและรอยพระพุทธบา ทหลังเต่าตรงกลางจะเป็นกลีบบัวเล็กเรียบกว่าเมื่อเดินไปถึงจุดหมาย น้องๆทีมงา นช่วยกันวิดน้ำฝนที่ท่วมขังและกวาดขี้โคลนออกจากรอยพระพุทธบา ทจนสะอาดตา สภาพเดิมเมื่อค้นพบใหม่ จะมี ทรายปิดทับรอยพระพุทธบา ทไว้ เป็นหินสีธรรมชาติ และต่อมาชาวบ้านได้นำสีทองมาทาทับไว้
ห่างออกไปราว ๕๐ เมตร บนโขลดหินด้านบนขึ้นไปอีก ปรากฏว่ามีร่องหินคล้ายรอยเท้า แต่ไม่มีการสลักหินเป็นรูปบนฝ่า และมีขนาดเล็กกว่ารอยแรกที่พบอย่างชัดเจน โดยก่อนจะเดินขึ้นมาถึงจุดที่รอยพระพุทธบา ทประทับอยู่ประมาณ ๒๐๐ เมตร จะเห็นภาพเขียนสีรูปก้นหอยสีแดง เขียนวนออกด้านนอกเป็นรัศมีคล้ายพระอาทิตย์ส่องประกายแสงอยู่หลายวง บนหน้าผาโขดหิน คล้ายกับภาพเขียนที่ถ้ำคน ถ้ำวัว และกลุ่มภาพเขียนสีแดง รูปลายเลขาคณิตที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบา ท และคล้ายกับภาพเขียนสีลายก้นหอยสีแดง
ที่แหล่งโบราณสถานบ้านเชียง ที่มีอายุราว ๑๘๐๐ ถึง ๒๕๐๐ ปีก่อนประวัติศาสตร์ ที่อยู่ห่างออกไปจากที่นี่ประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตร
เรียบเรียงข้อมูลโดย : เพจเกษตรบ้านทุ่ง