ถั่วแระ แจงเงินวัดพระบาทน้ำพุ ยอมรับเคยยืมเงินอดีตพระอลงกต ร่ำไห้ชีวิตดิ่งมากหลังมีข่าว เดือดร้อนต้องยกเลิกงาน
เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 9 ก.ย. 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายศรสุทธา กลั่นมาลี หรือ “ถั่วแระ เชิญยิ้ม” ศิลปินตลกชื่อดัง พร้อมนายศรายุทธ ยงหนู ทนายความของศิลปินตลก ได้นำเอกสารหลักฐานเข้ามอบให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกพาดพิงโยงในคดีวัดพระบาทน้ำพุ
ถั่วแระ เปิดเผยภายหลังการเข้าพบว่า เอกสารที่นำมาเป็นหลักฐานเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง “พลังบุญ” และกิจกรรมในสมาคมด้านกีฬาและศาสนา ซึ่งตนเคยมีส่วนร่วม โดยเล่าว่า หลังลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมศิลปินตลก ได้เข้ามาทำงานด้านบุญและกิจกรรมสาธารณกุศลร่วมกับอดีตพระอลงกต และถูกแต่งตั้งเป็นนายกสมาคมเชียร์ไทย ก่อนจะต่อยอดเป็นกิจกรรม “ชม ช็อป ชิม เชียร์ ช่วยชาติ ช่วยศาสนา”
ถั่วแระ ระบุว่า กิจกรรมต่าง ๆ จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ค่าน้ำมัน ค่ารถ จึงมีการประชุมภายในสมาคมเพื่อจัดทำระบบเบิกจ่าย โดยเงินส่วนใหญ่ได้รับจากเลขาฯ ของอดีตพระอลงกตในรูปแบบเงินสด ทั้งนี้จำนวนเงินแตกต่างตามภารกิจ หากเดินทางไปต่างประเทศจะมากหน่อย แต่หากเป็นกิจกรรมในประเทศ เช่น ที่วัดพระบาทน้ำพุ มักอยู่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท และตลอดเวลาที่ทำงานระหว่างปี 2562-2564 มีการจัดทำเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายครบถ้วน
เมื่อถูกถามว่าเงินที่ได้รับมาจากมูลนิธิหรือจากบัญชีส่วนตัวของอดีตพระอลงกต ถั่วแระ ตอบว่าไม่ทราบ เพราะตนรับผ่านเลขาฯ เท่านั้น ยืนยันว่าเงินไม่เคยถึงหลักล้าน สูงสุดแค่หลักแสนบาท พร้อมชี้แจงว่าเอกสารที่นำมามีทั้งชื่อผู้เบิก ผู้รับ รวมถึงสำเนาบัตรประชาชนครบถ้วน โปร่งใสตรวจสอบได้
กรณีมีกระแสข่าวว่าตลกชื่อดังถือครองโฉนดที่ดินของอดีตพระอลงกต ถั่วแระ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เกี่ยวข้อง พร้อมท้าพิสูจน์ผ่านกรมที่ดิน หากมีชื่อปรากฏจะยอมรับทันที แต่ยืนยัน 1,000,000% ว่าไม่มีส่วนพัวพัน
ส่วนกระแสข่าวเรื่องการยืมเงินอดีตพระอลงกต ถั่วแระ ยอมรับว่าเคยกู้ยืมจริงจำนวน 200,000 บาทในช่วงโควิดปี 2563 แต่ได้ทยอยผ่อนชำระคืนครบถ้วนแล้วภายใน 12 เดือน
นอกจากนี้ ยังชี้แจงกรณีภาพยนตร์ “พลังบุญ” ซึ่งสร้างขึ้น 3 เรื่อง เรื่องละประมาณ 300,000 บาท โดยอดีตพระอลงกตให้การสนับสนุนค่าใช้จ่าย แต่มีเงื่อนไขเพียงให้นำออกเผยแพร่เพื่อประโยชน์สังคม ไม่ได้เรียกร้องส่วนแบ่งรายได้ใด ๆ
ถั่วแระ ยอมรับทั้งน้ำตาว่า ข่าวที่ออกมากระทบชีวิตครอบครัวและงานในวงการอย่างหนัก ล่าสุดต้องยกเลิกงานเชียร์กีฬา SEA Games ที่กำลังจะมาถึง พร้อมฝากถึงสังคมและนักเลงคีย์บอร์ดว่า ควรคิดวิเคราะห์ก่อนวิจารณ์ เพราะหากตนบริสุทธิ์ใครจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณถั่วแระที่กล้าออกมาแสดงตัวและนำหลักฐานมาให้ตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจเบื้องต้นพบว่ามีการจัดทำเอกสารอย่างเป็นระบบ คล้ายการจ้างงานทั่วไป จึงสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานได้ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้เต็มที่ว่าบริสุทธิ์หรือไม่ ต้องรอผลสอบสวนอย่างละเอียด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังกล่าวเตือนผู้ที่ยังครอบครองทรัพย์สินของวัดหรือเป็น “นอมินี” ให้รีบนำมาคืนและเข้ามาชี้แจงโดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้อาจถูกดำเนินคดีโดยตรง พร้อมย้ำว่ากองปราบปรามกำลังตรวจสอบคดีนี้ในทุกมิติ ครอบคลุม 24 ประเด็นหลัก