วันที่ 17 ต.ค. 2567 ในรายการโหนกระแส โดยช่วงหนึ่งได้ให้ น.ส.ฐิตตญา หงษ์อุปถุมภ์ไชย หรือจิ๊บ อดีตภรรยาของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ชี้แจงหลังมีชื่อปรากฏเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูก ปปง.อายัดทรัพย์
น.ส.ฐิตตญา เปิดเผยว่า ตนจดทะเบียนหย่ากับพอลตั้งแต่ปี 2562 จึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ก่อนหน้านี้พอลเคยทำที่เจอเนสส์ เคยรู้จักกับพี่กบ(อนุสรา จันทรังษี) พี่ธเนตร(วงษา) ตนแค่ตามสามี ไม่เคยบรรยายอะไร ชื่อของตนไม่ควรปรากฏอยู่ในบริษัท ดิไอคอน ตอนตั้งบริษัทตนก็ไม่มีส่วนอะไรตรงนั้น พอมีชื่อถูกอายัดทรัพย์จาก ปปง. ตนตกใจมาก เพราะไม่ได้เริ่มต้นอะไรกับเขาเลย
หนุ่ม กรรชัย ถามว่า พอหย่ากันแล้วก็แยกกันอยู่เลยใช่ไหม แล้วสาเหตุที่แยกกันอยู่คืออะไร
น.ส.ฐิตตญา กล่าวว่า เขาหน้าตาดี ก่อนจะเป็นหน้าตาปัจจุบัน ตอนนั้นเขาหล่อ แล้วสาวๆ เข้าหาเขาเยอะมาก มีตลอด แต่จะมีผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งทุกคนจะเห็นว่าคอยติดตามตลอดเวลา เป็นเบอร์ 2 ข้างๆ ตนตลอด และคอยดูแลคุณพอล โดยตนจะนั่งข้างพอลในฐานะเมีย แต่เขาจะนั่งข้างตนในฐานะคนดูแลพอลอีกที เขาจะบอกว่าถ้าน้องไม่ว่างเดี๋ยวพี่ดูแลให้ ทำทุกอย่างแทนเอง เขาจะดูแลตน ดูแลลูกให้
น.ส.ฐิตตญา กล่าวต่อว่า พี่กบก็เคยเตือน คนอื่นก็เคยเตือน แต่ตนยังไม่ได้เชื่อ เพราะมีหลายคนที่ต้องการเขา เพราะเขาหล่อ รวย มีความสามารถ ตนทราบว่าผู้หญิงคนนั้นเขาอยู่กับแม่และลูก แต่ไม่เคยเห็นสามีเขา หลังจากนั้นตนก็ทราบว่าเขามีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แต่ไม่อยากพูด เพราะกระทบลูก ซึ่งตนมีลูกสาวคนเดียว ส่วนลูกชายไม่ใช่
น.ส.ฐิตตญา กล่าวอีกว่า หลังจากตนแยกย้ายกับเขา จึงรู้ 100% ว่าที่ตนได้ยินมาทั้งหมดคือเรื่องจริง พอแยกกับตนไปก็ไปอยู่กับผู้หญิงคนนี้ ตนจดทะเบียนหย่าและแยกย้ายกับเขาตั้งแต่ปี 2562 แล้วแยกบ้านอยู่ ไม่ได้ไปมาหาสู่กันเลย
หนุ่ม กรรชัย ถามต่อว่า เขายังโอนเงินเข้าบัญชีคุณอยู่ตลอดเวลาหรือไม่
น.ส.ฐิตตญา กล่าวว่า ตามบันทึกข้อตกลงหลังการจดทะเบียนหย่า เขาจะต้องโอนเงินค่าเลี้ยงดูลูกเข้าบัญชีตนทุกเดือน ตอนแรกโอนให้เดือนละ 1 แสนบาท แต่ตนใช้จ่ายไม่พอ จึงขอเพิ่มเป็นเดือนละ 160,000 บาท
หนุ่ม กรรชัย ถามทนายตั้ม และทนายเดชา ว่า แม้จะแยกกันอยู่แล้ว แต่โอนเงินเข้ามา พอโดนอายัด จึงโดนไปด้วยใช่หรือไม่
ทนายเดชา กล่าวว่า เวลาเขาดำเนินคดีกับสามี ครอบครัวก็โดนด้วย ฟังแล้วน่าเห็นใจ เพราะเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดู ถ้ามีบันทึกหลังการหย่าต้องเอามาประกอบ โดยหลักถ้าสามีทำผิดฉ้อโกงประชาชน เขาอายัดหมด แต่จะอายัดไปก่อน น่าจะมีโอกาสไปชี้แจง
น.ส.ฐิตตญา กล่าวด้วยเสียงสะอื้นว่า ทรัพย์สินมีแค่รถที่เป็นชื่อตน นอกนั้นไม่มีอะไรเป็นของตน เป็นชื่อของพอลหมดเลย รวมถึงบ้านด้วย ตนไม่ได้มีส่วนอะไรกับบริษัทดิไอคอน แต่ชื่อตนปรากฏออกทั่วประเทศแล้ว มันกระทบกับลูกตนมากๆ กับครอบครัวตนด้วย แล้วก็มีหลายเพจหลายสื่อ เอาหน้าของลูกตนไปโพสต์
อยากให้ทุกคนอย่าทำร้ายเด็ก เพราะเด็กไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย ให้เห็นใจเด็กด้วย ตอนนี้น้องบอกว่าน้องไม่อยากไปโรงเรียน น้องอยากหยุดอยู่ที่บ้าน น้องรับไม่ไหว น้องเพิ่งอายุ 14 ปี น้องรับไม่ได้ น.ส.ฐิตตญา กล่าว