เรียกได้ว่าเกิดเรื่องที่ทำเอาหลายคนต่างตกใจไม่น้อยสำหรับเครื่องกระตุ้นหัวใจของ เอส กันตพงศ์ เพิ่งทำงานเป็นครั้งแรกเนื่องจากหัวใจของพี่เอสเต้นเร็วกว่า 2 ร้อยกว่าครั้งต่อนาที ทำให้เจ้าตัวถึงกับทรุด โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ต้องบอกว่าเสี่ยงมาก ถ้าไม่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจ เอสหัวใจหยุดเต้นได้เลย
ล่าสุด เอส ได้อัปเดตอาการผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
ตอนนี้อยู่บ้านแล้ว
เอส : ใช่ครับ เพิ่งกลับมาเมื่อวาน
อัปเดตอาการหน่อย เป็นยังไงบ้าง
เอส : ตอนนี้เพิ่งได้ข้อมูลใหม่ๆ มาเยอะมาก อาการปัจจุบันตอนนี้ไม่มีอะไรเลย เลยเป็นคำถามที่คุณหมอว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง คุณหมอให้บริษัทที่ทำเครื่องมาตรวจเลยว่าผิดพลาดหรือเปล่า หรือว่าเกิดอะไรขึ้น พอเขามาเช็ก หัวใจผมเต้น 200 ครั้งต่อนาที
เอส : เครื่องเลยทำงาน ความผิดพลาด ณ ตอนนี้คุณหมอมีหลายความเห็น แต่ความเห็นหลักน่าจะเป็นกรรมพันธุ์ ก็เลยเป็นข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยให้สัมภาษณ์ที่ไหน พอผมถามว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง คุณหมอบอกว่าไม่สามารถทราบได้
แสดงว่ามันมีมูลเหตุ ไม่จำเป็นต้องเหนื่อย หัวใจจะเต้นเร็ว มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
เอส : ใช่ครับ ณ ตอนนี้เป็นแบบนั้น พอไปถึงโรงพยาบาลตรวจเช็กทุกอย่าง ทุกอย่างทำงานปกติหมดเลย
ตอนนั้นที่เครื่องกระตุ้นหัวใจทำงาน พี่เอสทำอะไรอยู่
เอส :เพิ่งตีแบดกับเพื่อนบ้านประมาณ 4-5 นาที ไม่เกิน 10 นาที แล้วยืนอยู่เฉยๆ ตอนแรกผมคิดว่ามันทำงานแค่ตรงหัวใจ มันแรงขึ้นมาถึงฟันล่างเลย
ความเสี่ยงครั้งนี้มันขนาดไหน มันคล้ายกับครั้งแรกที่ล้มลงไปเลยไหม
เอส : ครั้งแรกผมจำไม่ได้ว่าอาการเป็นยังไง แต่พอมาศึกษาข้อมูล มันก็เหมือนกันเลย ยืนเฉยๆ ไม่ได้มีอะไร วันนี้ก็มีหาข้อมูลจากเพื่อนบ้านที่ถ่ายคลิปประมาณนึง คือยืนเฉยๆ ฟังคนอื่นเขาพูดคุย แล้วทรุดลงไปเลยโชคดีที่มันมีเครื่อง ตัวเครื่องมันทำงาน
พอเจอคุณหมอ คุณหมอมีเตือนไหมว่ากิจกรรมไหนที่ห้ามทำ หรือเจอภาวะความเครียด คุณหมอมีแนะนำไหม
เอส : คุณหมอไม่สามารถให้คำตอบได้เลย ณ ตอนนี้ คุณหมอก็พูดตรงๆ เลย ผมก็คิดว่าเป็นเพราะอาหารหรือเปล่า ตอนนี้ผมกลับมาทานโปรตีนเยอะขึ้น หรือว่านอนน้อยไม่น่าใช่แล้ว ผมนอนวันละ 7 ชม. ออกกำลังกาย คุณหมอเลยให้น้ำหนักไปที่กรรมพันธุ์
ได้ข้อมูลมาว่า หัวใจคุณแม่เต้นช้า แต่ของคุณเอสเต้นเร็ว
เอส : ใช่ครับ ผมได้กรรมพันธุ์จากคุณแม่ ของคุณแม่เต้นช้า ของผมคือเต้นเร็ว ผมถามคุณหมอมีอะไรห้ามไหม ห้ามออกกำลังกายอะไรไหม คุณหมอบอกว่ายังไม่มีห้ามอะไรเลย